วันเสาร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ตอนที่ ๒ บทที่ ๕ – ๗ ปฐมเหตุแห่งโศกนาฏกรรม (ปรับปรุง)

ร่าย
๕ กล่าวถึงขุนผู้ห้าว นามท่านท้าวแมนสรวง เป็นพระยาหลวงผ่านเผ้า เจ้าเมืองสรวงมีศักดิ์ ธมีอัคเทพีพิลาส ชื่อนางนาฎบุญเหลือ ล้วนเครือท้าวเครือพระยา สาวโสภาพระสนม ถ้วนทุกกรมกำนัล มนตรีคัลคับคั่ง ช้างม้ามั่งมหิมา โยธา เดียรดาษหล้า หมู่ทกล้าทหาร เฝ้าภูบาลนองเนือง เมืองออก มากมียศ ท้าวธมีเอารสราชโปดก ชื่อพระลอดิลกล่มฟ้า ทิศ ตะวันออกหล้า แหล่งไล้สีมา ท่านนาฯ
ถอดความ
ท้าวแมนสรวงผู้ยิ่งใหญ่เก่งกล้าสามารถ ครองเมืองสรวง ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออก มีมเหสีพระนามว่าบุญเหลือ มีบริวารห้อมล้อมมากมาย ทั้งนางสนมกำนัล กองทัพเต็มแผ่นดิน ทหารเก่งช้างม้ามากมาย และเมืองขึ้น มีโอรสพระนามว่าพระลอ
ร่าย
๖ มีพระยาหนึ่งใหญ่ ธไซร้ทรงนามกร พิมพิสาครราช พระบาทเจ้าเมืองสรอง สมบัติหลวงสองราชา มีมหิมาเสมอกัน ทิศตะวันตกไท้ท้าว อคร้าวครองครองยศ ท้าวธมีเอารสราช ฦๅไกร ชื่อท้าวพิไชยพิษณุกร ครั้นลูกภูธรธใหญ่ไซร้ ธก็ให้ ไปกล่าวไปถาม นางนามท้าวนามพระยา ชื่อเจ้าดาราวดี นาง มีศรีโสภา เป็นนางพระยาแก่ลูกไท้ ลูกท้าวธได้เมียรัก ลำนัก เนตรเสนหา อยู่นานมามีบุตร สุดสวาทกษัตริย์สององค์ ทรงโฉมจันทรงามเงื่อน ชื่อท้าวเพื่อนท้าวแพง จักแถลงโฉมเลิศล้วน งามถี่พิศงามถ้วน แห่งต้องติดใจ บารนี ฯ
ถอดความ
มีอีกเมืองหนึ่งชื่อเมืองสรองตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกตรงข้ามกัน เป็นเจ้าเมืองสรอง ต่อมาเรียกว่าเมืองสรอง มีความยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน พระนามว่าท้าวพิมพิสาคร มีโอรสชื่อท้าวพิไชยพิษณุกร มีมเหสีชื่อเจ้าดาราวดีทั้งสองมีพระราชธิดาที่สวยงามมากอยู่สององค์ชื่อท้าวเพื่อนท้าวแพง
ร่าย
๗ เมื่อนั้นไท้แมนสรวง พญาหลวงให้หา หัวเมืองมาริปอง ว่าเมืองสรองกษัตริย์กล้า อย่าช้าเราจะรบ ชิงพิภพเป็นเมืองออก เร่งบอกให้เรียบพล นายกคณชุมกัน ครันเทียบพลเศิกเสร็จ ท้าวธเสด็จพยุหบาตร ลีลาศจากพระนคร คลี่นิกรพลพยู่ห์ สู่แดนศึกบ่มิช้า เดียรดาษพลช้างม้า เพียบพื้นภูมิน

ถอดความ
ท้าวแมนสรวงสั่งจัดกองทัพอย่างยิ่งใหญ่ แล้วยกไปตีเมืองสรองจะเอาเป็นเมืองขึ้นให้ได้

รูปแบบการประพันธ์หรือฉันทลักษณ์ในการแต่ง
เป็นร่ายทั้ง ๓ บท การประพันธ์ ถูกต้องตามฉันทลักษณ์

ธรรมเนียมนิยมในการแต่ง
๑. การสัมผัสอักษร สัมผัสสระ เพื่อความไพเราะ การแต่งโคลง และร่ายมีลักษณะคล้ายกันครับ
บทที่ ๕ ท่าน-ท้าว, ผ่าน-เผ้า, สรวง-ศักดิ์, เทพี-พิลาส, นาง-นาฎ, บุญเหลือ-ล้วน, เครือ-ท้าวเครือ,
สาว-โสภา-พระสนม, กรม-กำนัล, มนตรีคัล-คับคั่ง, ช้างม้า-มั่ง-มหิมา, ทกล้า-ทหาร,
นองเนือง-เมืองออก, มาก-มียศ, เอารส-ราช, พระลอ-ดิลก-ล่มฟ้า, หล้า-แหล่ง-ไล้

บทที่ ๖ ใหญ่-ไซร้, กร-คร, ราช-บาท, ราชา-มา, กัน-วัน, ท้าว-อคร้าว-ครอง, ยศ-เอารส,
ไกร-พิไชยพิษณุกร-ภูธร-ธ, ไซร้-ให้, ถาม-นาม, พระยา-ดารา, วดี-มี-ศรี, รัก-นัก, หา-มา,
บุตร-สุด-สวาท, องค์-ทรง, เงื่อน-เพื่อน-แพง, ล้วน-ถ้วน

บทที่ ๗ แมนสรวง-หลวง, ปอง-สรอง, กล้า-ช้า, รบ-พิภพ, ออก-บอก, กัน-ครัน, เสร็จ-เสด็จ,
บาตร-ลีลาศ, พระนคร-นิกร, พยู่ห์-สู่, ช้า-ม้า, เพียบ-พื้น-ภูมิน

๒. การเลือกใช้คำประพันธ์
๒.๑ เลือกคำที่มีเสียงเสนาะ แฝงลีลา จังหวะอ่อนเนิบ นิ่มนวลหรือเร่งเร้า รุนแรง เช่น อุเหม่..(โกรธ)
คำบ่งบอกอารมณ์ ความรุนแรง คือ ขุนผู้ห้าว, เดียรดาษหล้า, ทกล้าทหาร, นองเนือง,
เดียรดาษพลช้างม้า เพียบพื้นภูมิน
คำบ่งบอกอารมณ์ อ่อนไหว โฉมเลิศล้วน งามถี่พิศงามถ้วน แห่งต้องติดใจ บารนี

๒.๒ การใช้คำเลียนเสียงธรรมชาติ เช่น ออดแอดแอดออดยอดไกว ตอนนี้ไม่มีครับ

๒.๓ ใช้คำน้อยแต่กินความมาก เช่น อันของสูงแม้ปองต้องจิต
เดียรดาษพลช้างม้า เพียบพื้นภูมิน หมายถึงมีมากมายมหาศาล

๒.๔ การเล่นคำ คือใช้คำซ้ำ เช่น เรื่อยเรื่อยมาเรียงเรียง...
ล้วนเครือท้าวเครือพระยา, อคร้าวครองครองยศ, นางนามท้าวนามพระยา, ท้าวเพื่อนท้าวแพง,
งามถี่พิศงามถ้วน
๒.๕ การใช้คำอัพภาส เช่น ริก เป็นระริก ยิ้ม เป็น ยะยิ้ม แย้ม เป็น ยะแย้ม ตอนนี้ไม่มีครับ

๒.๖ การเล่นเสียงวรรณยุกต์ ไล่ระดับมีความไพเราะคล้ายเสียงดนตรี เช่น จากมามาลิ่วล้ำ ลำบาง
ท่านท้าว, ผ่านเผ้า, แหล่งไล้

๓. กวีโวหารและสำนวนโวหาร
๓.๑ การเปรียบเทียบหรืออุปมาอุปไมย ตอนนี้ไม่มีครับ
๓.๒ การใช้บุคลาธิษฐาน คือธรรมชาติเลียนแบบพฤติกรรมมนุษย์ ตอนนี้ไม่มีครับ
๓.๓ การใช้สัญลักษณ์ เช่นดอกกุหลาบแทนความรัก
ทรงโฉมจันทรงามเงื่อน เปรียบเทียบความงามของพระเพื่อนพระแพงเหมือนดวงจันทร์
๓.๔ การกล่าวเท็จ หรือพูดเกินจริง
โยธา เดียรดาษหล้า หมายถึงมีกองทัพเต็มแผ่นดิน
เดียรดาษพลช้างม้า เพียบพื้นภูมิน หมายถึงมีกองทัพเต็มแผ่นดิน
๓.๕ การใช้โวหารปฏิพากย์ คือคำที่มีความหมายเป็นตรงกันข้าม เช่น “ความหวานชื่นอันขมขื่น”
“ใกล้หัวใจแต่ไกลสุดฟ้า” “ในความมืดอันเวิ้งว้างสว่างไสว …..” ตอนนี้ไม่มีครับ

๔. สาระของเนื้อหา
ประโยชน์อันเป็นผลพลอยได้ที่ได้รับจากวรรณกรรม นอกเหนือจากความบันเทิงใจแล้ว ยังมีอีก คือ
๑. แนวคิดและค่านิยมที่เป็นประโยชน์ ทั้งโดยตรงและโดยอ้อม
ในอดีตเจ้าเมืองต่างๆ มักนิยมทำสงครามขยายดินแดน เพื่อแสดงแสนยานุภาพ และมักมีนางสนมกำนัล บริวารแวดล้อมมากมาย
๒. สาระ หลักฐานความเป็นจริง อาทิ ทัศนคติ ความเชื่อ ประเพณี วัฒนธรรม ฯลฯ
เปรียบเทียบความงามของสตรีเหมือนดวงจันทร์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น